Description
วิตามินบำรุงสายตา Lutein (ลูทีน) และ Zeaxanthin (ซีแซนทีน) เป็นสารอาหารสำคัญในอาหารบำรุงสายตา เหมาะสำหรับคนที่ห่วงใยสุขภาพตาและคนที่ทำงานโดยใช้สายตามาก เช่น ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ หรือผู้ที่ต้องทำงานอยู่กลางแจ้งที่มีแสงแดดจ้า คนที่ต้องขับรถกลางคืนบ่อยๆ ที่มักจะต้องถูกแสงไฟรถที่วิ่งสวนมาสาดเข้าตาบ่อยๆ และผู้ที่ใช้ มือ แท็บเล็ต หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ ซึ่งอุปกรณ์เหล่ามี “แสงสีฟ้า” (Blue Light) ที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของเรา โดยแสงสีฟ้าจะไปกระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระภายในลูกตา ซึ่งอาจทำให้เซลล์จอประสาทตาตายได้ อาจส่งผลทำให้เกิด โรคจอประสาทตาเสื่อม คือจะมีอาการมองภาพตรงกลางไม่ชัด…ปกป้องดวงตาตั้งแต่วันนี้ก่อนจะสายเกินแก้
ลูทีน(Lutein) และ ซีแซนทีน(Zeaxanthin)
ลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน(Zeaxanthin) เป็นสารอาหารปกป้องดวงตา พบได้ในดอกไม้สีเหลือง เช่น ดอกดาวเรือง และยังพบในไข่แดง เกษตรกรที่ต้องการให้ไข่แดงมีสีส้มสดก็จะนำดอกดาวเรืองให้แม่ไก่กิน แม่ไก่ก็จะได้รับสารลูทีน ไปสะสมในไข่แดง ทำให้ไข่มีสีสวยและอุดมด้วยลูทีน
ซีแซนทีน(Zeaxanthin) พบได้ในพริก ดอกดาวเรือง โกจิเบอร์รี่ เป็นต้น เรามักพบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีลูทีนคู่มากับซีแซนทีน เนื่องจาก สารทั้งสองชนิด เป็นสารประเภทเดียวกัน และมีความคล้ายคลึงกันมาก
ลูทีนและซีแซนทีน เป็นสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบมากที่สุดตรงบริเวณจุดศูนย์กลางของเรตินา จะช่วยดูดซับแสงสีน้ำเงินก่อนที่จะส่งผลเสียต่อดวงตา
การศึกษาทางระบาดวิทยา พบหลักฐานว่า ลูทีนและซีแซนทีนช่วยลดโรคจอประสาทตาเสื่อม (Age-related macular degeneration: AMD) สำนักงาน อาหารและยาสหรัฐอเมริกา ให้การรับรองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลูทีนและซีแซนทีน ในการลดความเสี่ยงของการเกิดความเสื่อมของตา อันมีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มขึ้น
การศึกษาโดยใช้เวลา 6 ปี ของสถาบันดวงตาแห่งชาติพบว่า ลูทีนและซีแซนทีน ช่วยป้องกันการตาบอดจากความเสื่อม การศึกษาของโครงการสารอาหารและการมองเห็น ซึ่งใช้เวลาถึง 15 ปี พบว่า การรับประทานลูทีนและซีแซนทีน ขนาด 2.4 มิลลิกรัมขึ้นไป จากอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะช่วยลดต้อสีเหลืองที่เลนส์ตา
นอกจาก ลูทีนและซีแซนทีน จะมีคุณสมบัติในการช่วยชะลอความเสื่อมของเรตินา และเลนส์ตาแล้ว ยังทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก และป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
ลูทีนไม่ได้มีการกำหนดปริมาณในการรับประทาน แต่งานวิจัยพบว่า ต้องรับประทาน 6-10 มิลลิกรัมต่อวัน จึงจะมีประสิทธิภาพในการดูแลดวงตา และมีความปลอดภัยหากรับประทานไม่เกิน 20 มิลลิกรัมต่อวัน หากรับประทานมากเกินไปจะมีการสะสมที่ตับ และทำให้ตัวเหลืองที่เรียกว่า Carotenemia แต่เพียงแค่การหยุดรับประทานสักระยะอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง
แหล่งที่พบ ลูทีนและซีแซนทีน ในธรรมชาตินอกจาก จะพบมากในดอกดาวเรือง และโกจิเบอร์รี่(เก๋ากี้)แล้ว ยังพบใน กะหล่ำ ผักโขม ถั่วลันเตา ผักกาด ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ถั่วพิสตาชิโอ บรอกโคลี ข้าวโพด ไข่ และแครอท
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: คู่มืออาหารเสริม, ดร.เริงฤทธิ์ สัปปพันธ์
ประโยชน์ของ Lutein
- ช่วยให้ตาแข็งแรง ป้องกันประสาทตาเสื่อม
- ช่วยเสริมสร้างการมองเห็นโดยช่วยป้องกันการเสื่อมของ Mascular ที่จุดเล็กๆ ตรงกลางของที่รับแสงในตา(Retina) อันเป็นส่วนสำคัญของ Main pigment (สี) ในฉากรับแสงของตาจะช่วยป้องกันมิให้แสงอาทิตย์ทำลายเรตินา
- ป้องกันโรคจุดรับภาพเสื่อม หรือจอประสาทตาเสื่อม AMD (Age – Related Mascular Degeneration)
- ช่วยป้องกันและลดอาการของโรคต้อกระจก (Cataracts)
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Free radical) ที่ทำลายเซลล์ตา ทำให้เซลล์แข็งแรง ช่วยชะลอความเสื่อมของตา ช่วยบำรุงระบบการไหลเวียนของเลือด และเส้นเลือดฝอยที่เลี้ยงตา
- เพิ่มสมรรถภาพในการมองเห็นได้ดีในที่มืด
- ช่วยแก้สายตาที่ไม่ดีและโรคเกี่ยวกับตา ใช้ร่วมกับ Bilberry เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา