ราคา 990 บาท
ประโยชน์ มหาศาล ต้านอนุมูลอิสระ ผลิตคอลลาเจนและไฟเบอร์ สังเคราะห์สารสเตรอยด์ให้กับร่างกาย การรักษาบาดแผล เป็นสารสื่อประสาท ต้านหวัดเพิ่มภูมิคุ้มกันและอื่นๆๆๆๆวิตามินซี สูตรเข้มข้นนำเข้าจากอเมริกา พร้อมสารสกัดธรรมชาติ ไบโอฟลาโวนอย ชนิดเพิ่มการดูดซึมได้ยาวนาน 6- 12 ชม.
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ขนาดรับประทานครั้งละ1-2 เม็ด / วัน พร้อมอาหาร
Directions: For adults, take one (1) to two (2) caplets daily, preferably with meals.
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
คุณประโยชน์ของ ‘วิตามินซี’ ไม่ใช่มีไว้แค่ต้านหวัด
โดย ทั่วไปแล้ว เราทราบมาว่าการรับประทานวิตามินซี เป็นประจำทุกวันสามารถสร้างภูมิต้านทาน ทำให้เราไม่เป็นหวัดบ่อยและหายจากโรคหวัดได้เร็วขึ้น ความคิดนี้สามารถยืนยันได้จากผลวิจัยที่มีการทำในปี 1970 โดย ดร.ไลนัส พอลลิ่ง ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ถึง 2 ครั้ง ได้เขียนหนังสือ เล่มหนึ่งชื่อ “วิตามินซีกับโรคหวัด” เขากล่าวว่าหากเราได้รับ วิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม จะสามารถป้องกันหวัดและถ้าเป็นหวัดก็จะหายเร็วกว่า โดยจะมีวันป่วยน้อยกว่าคนปกติถึง 60% แต่ทราบหรือไม่ว่า วิตามินซีมีประโยชน์มากกว่าการป้องกันโรคหวัด
วิตามินซี สามารถเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคได้
เรา พบว่า วิตามินซี มีคุณสมบัติในการทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นวิตามินซี ยังช่วยลดการหลั่งสารก่อภูมิแพ้ในร่างกาย หรือฮิสตามีน ซึ่งสารก่อภูมิแพ้ในร่างกายนี้จะถูกกระตุ้นให้มีปริมาณสูงขึ้น เมื่อร่างกายได้รับสารหรือสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่ถ้าร่างกายมี วิตามินซี เพียงพอ ก็จะสามารถบรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส จากคุณสมบัติการเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ
วิตามินซี ช่วยบำรุงผิวได้
สำหรับ การดูแลสุขภาพเพื่อให้มีผิวพรรณที่สมบูรณ์ การรับประทานผักสดและผลไม้สด ทำให้ผิวสวย เหงือกและฟันแข็งแรง นั่นเพราะวิตามินซี ในผักและผลไม้ จะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิตของผิว เมื่อเซลล์ผิวได้รับอาหารมากก็จะทำงานดีขึ้น ผิวจะดูมีสุขภาพดี และเรียบเนียน รวมทั้งวิตามินซี ยังช่วยเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนในเซลล์ ทำให้ผิวแน่น และยืดหยุ่นดีขึ้น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร วิตามินซี ยังช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เนื่องจากวิตามินซี ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเองโดยไปเสริมสร้างผนังเซลล์ ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและต่อต้านการอักเสบ ทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น
คนที่สูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้คนสูบบุหรี่ ต้องการวิตามินซีมากกว่าคนอื่น
มี การวิจัยพบว่า เด็กที่ผู้ปกครองสูบบุหรี่ จะมีปริมาณวิตามินซี ในร่างกายลดลงครึ่งหนึ่ง ของเด็กที่ผู้ปกครองไม่สูบบุหรี่ ดังนั้นคนที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีคนสูบบุหรี่หรือสูบบุหรี่เอง ควรรับประทานวิตามินซี เสริม โดยวิตามินซี สามารถช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต ของคนที่สูบบุหรี่ที่มีระบบไหลเวียนโลหิตไม่ดี ให้มีสุขภาพดีได้อย่างรวดเร็ว โดยพบว่า การเปลี่ยนแปลงของเส้นเลือด จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อรับประทานวิตามินซี ในขนาด 2,000 มิลลิกรัม
รับประทานวิตามินซี ทุกวัน ไม่เป็นต้อกระจก
มี การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้ที่รับประทานวิตามินซี มาอย่างน้อย 10 ปี จะมีโอกาสที่จะมีอาการเลนส์ตาขุ่นซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคต้อกระจก ลดลงถึง 77% ซึ่งยังต้องการการศึกษาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
บทบาทสำคัญของวิตามินซีมากมายหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น
1. เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในโครงสร้างของหลอดเลือด เอ็น กระดูก และฟัน
2. เป็นสารด้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสุงช่วยปกป้องเซลล์ ทำให้เซลล์อยู่ในสภาวะปกติ
3. ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแร่ธาตุจากอาหารได้ดียิ่งขึ้น
4. มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทจำพวก norepinephrine ซึ่งสารสื่อประสาทดังกล่าวนี้มีส่วนช่วยทำให้มองรับรู้เกี่ยวกับอารมณ์
5. ช่วยในการสังเคราะห์สาร carnitine ซึ่งเป็นสารโมเลกุลขนาดเล็กที่มีส่วนช่วยในการลำเลียงไขมันที่ไมโทคอนเดรี ยเพื่อเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน แก่ร่างกาย
6. มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเมแทบอลิซึมของโคเลสเทอรอล โดยจะช่วยเปลี่ยนโคเลสเทอรอลให้กลายเป็นกรดน้ำดี (bile acids) ทำให้ ระดับโคเลสเทอรอลในหลอดเลือดลดลงได้
7. เสริมภูมิต้านทานและช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ เนื่องจากวิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้ สำหรับอาหารที่จัดว่ามีวิตามินซีสูง ได้แก่ อาหารจำพวกผักและผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ มะนาว กีวี พริกหยวก ผักกาด มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่งและบล็อคโคลี่ เป็นต้น เนื่องจากวิตามินซีสลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศ แสง โลหะหรือความร้อน ดังนั้นส่วนใหญ่วิตามินซีที่มีอยู่ในอาหารจะสูญเสียไประหว่างขั้นตอนของการ ประกอบอาหาร เช่น ในกระบวนการต้มหรือนึ่งอาหารที่ใช้เวลานานมากเกินไป เช่นเดียวกับการแช่ผักไว้ในช่องแช่แข็งเป็นระยะเวลานานหรือหั่นผักแล้วนำไป แช่น้ำจะทำให้วิตามินซีละลายไปกับน้ำได้ นอกจากนั้นการคั้นน้ำผลไม้รับประทานควรจะคั้นแล้วรับประทานเลยทันที ไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 2 วัน ถ้าเป็นไปได้ควรบริโภคผักและผลไม้สดเพราะจะให้ทำให้ได้รับวิตามินซีในปริมาณ ที่มากที่สุดได้
อาหารแต่ละชนิดมีปริมาณของวิตามินซีแตกต่างกันออกไป ดังตาราง
ตารางสรุปปริมาณวิตามินซีที่ได้รับจากการบริโภคอาหารชนิดต่าง ๆ
|
ที่มา : Food and Drug Administration ประเทศสหรัฐอเมริกา
* อาหารในข้อ 3,8, และ 12 ที่นำมาทดลองหาปริมาณวิตามินซีนั้นได้ผ่านขั้นตอนการประกอบอาหารแล้ว แต่เป็นขั้นตอนที่ผ่านการวิจัยว่าจะสามารถคงปริมาณของวิตามินซีธรรมชาติไว้ ได้มากที่สุด แต่วิตามินซีบางส่วนที่อยู่ในอาหารชนิดนั้นอาจสลายตัวไปบ้าง เช่นเดียวกับอาหารในข้อ 2,6,11 ที่ผ่านการหั่นและวิตามินซีบางส่วนอาจสลายไปเนื่องการปฏิกิริยาออกซิไดซ์กับ ออกซิเจนในอากาศ ซึ่งถ้าเทียบกับอาหารชนิดเดียวกันที่ไม่ผ่านกระบวนการใดเลย จะมีปริมาณวิตามินซีธรรมชาติที่มากกว่า
ปริมาณวิตามินซี ที่ควรได้รับในแต่ละวัน ปริมาณวิตามินซีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเพศ และวัยแต่โดยเฉลี่ยแล้วไม่ควรรับประทานวิตามินซีเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะหากร่างกายได้รับวิตามินซีในประมาณที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้าง เคียงได้ เช่น มีอาการปวดท้อง ท้องร่วง หรือท้องอืด ในทางตรงกันข้ามหากร่างกายได้รับวิตามินซีน้อยเกินไปจะส่งผลให้เกิดอาการผิด ปกติต่างๆ เช่น ผมแห้ง ผิวแห้ง เหงือกอักเสบ มีอาการบวมตามข้อต่อ ภูมิต้านทานลดลง แผลหายช้ากว่าปกติ หรืออาจทำให้เป็นโรคลักปิดลักเปิดได้
– ผู้ที่มีอาการเป็นหวัด เป็นโรคภูมิแพ้ และร่างกายอ่อนแอ ควรได้รับวันละ 1,000-2,000 มิลลิกรัม
– ผู้ที่อยู่ท่ามกลางมลภาวะที่เป็นพิษ มีความเครียดในร่างกาย ควรได้รับวันละ 1,000 มิลลิกรัม
– ผู้ที่ต้องการดูแลและบำรุงสุขภาพ ควรได้รับวันละ 1,000 มิลลิกรัม
นอกจากจะได้รับวิตามินซีจากอาหารแล้ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะขาดวิตามินซี ก็สามารถเลือกบริโภควิตามินซีในรูปของอาหารเสริมได้ ซึ่งมีทั้งที่สกัดจากธรรมชาติและสังเคราะห์ขึ้นและเนื่องจากวิตามินซีนั้นจะ ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีหากใช้ร่วมกับฟลาโวนอยด์ (flavonoid) โดย flavonoid จัดเป็นสารสี (pigment) ที่สกัดได้จากพืช เช่น ชา แอบเปิ้ล กระเทียม หอมใหญ่ เป็นต้น เป็นสารที่ละลายในน้ำได้และมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีเช่นเดียว กับวิตามินซี ดังนั้นบริษัทผู้ผลิตอาหารเสริมส่วนใหญ่จึงนิยมเพิ่มส่วนผสมของ flavonoid ลงไปด้วย นอกจากนั้นยังมีการผสมวิตามินซีกับแร่ธาตุจำพวก แคลเซียม โพแทสเซียม หรือแมกนีเซียมเพื่อลดความเป็นกรดสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร อย่างไรก็ตามเราควรบริโภควิตามินซีให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมจึงจะก่อให้ เกิดประโยชน์แก่ร่างกายมากที่สุดคน เอกสารอ้างอิง
1. Vitamin C – Linus Pauling Institute (micronutrient research for optimum health) oragon state university(Online). Available : http://lpi.oregonstate.edu/infocenter/vitamins/vitaminC/ (Retrieved 06 / 09 / 2009)
2. Vitamin C – Mediline Plus (Trusted Health Information for you) encyclopedia (Online). Available : http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/002404.htm (Retrieved 06 / 09 / 2009)
3. Vitamin C – The world’s healthiest foods (Online). Available :http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=nutrient&dbid=109(Retrieved 06 / 09 / 2009)
4. Vitamin C – Food Standards Agency (Healthydiet) (Online). Available : http://www.eatwell.gov.uk/healthydiet/nutritionessentials/vitaminsandminerals/vitaminc/#elem220563 (Retrieved 06 / 09 / 2009)
5. Vitamin C – Fact Sheet Extension (OhioStateUniversity) (Online). Available : http://ohioline.osu.edu/hyg-fact/5000/5552.html (Retrieved 06 / 09 / 2009) 6. นิตยสาร สสวท. ปีที่ 37 ฉบับที่ 160 (พ.ค. – มิ.ย. 2552) เรื่องบทบาทของวิตามินซีต่อการเสริมสร้างคอลลาเจน